โฆษณาต่อต้านคอรัปชั่น

วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2554

ตามหาความหมายของคำว่าแฟนบนรถไฟฟ้า มาหานะเธอ

ตามหาความหมายของคำว่าแฟนบนรถไฟฟ้า  มาหานะเธอ


วันอาทิตย์ที่ผ่านมาวันหยุดพอดี นัดกับเพื่อนแก็งสาวโฉด ไปดูหนังเรื่อง รถไฟฟ้ามาหานะเธอ กัน แต่ผิดพลาดนิดหน่อย สุดท้ายเราเลยไปดูกับน้องแทน ที่ไปดูเพื่อจะให้หัวใจสาวโสดสะเทือนใจเล่น ๆ อิอิ เหมือนโดนมดกัด แสบ ๆ คัน ๆ

หนังเรื่องนี่ เราว่า โดยเนื้อเรื่องแล้วไม่ได้พิเศษกว่าหนังเรื่องไหน ๆ ไม่ได้มีฉากอลังการงานสร้างมากมาย เป็นแค่เรื่องราว ธรรมดา ๆ ของคนหนุ่มสาวในเมืองกรุง แต่ไม่รู้ดิตลอดระยะเวลาที่ดู นั่งยิ้มได้ทั้งเรื่อง กลับบ้านไปแล้ว ก็ยังคงฮัมเพลงประกอบหนัง ต่อไปไม่รู้เบื่อ ^^

มีฉากหนึ่งในฉากที่โดนใจอย่างจัง ตอน เหมยลี่ ถามเป็ด ประมาณว่า (อาจจะจำได้ไม่หมด แต่จับใจความได้ว่า) คนเป็นแฟนกัน ถ้าไม่ได้อยู่ด้วยกันเลย แล้วจะเรียกว่าแฟนได้เหรอ โอ๊ะโอ เข้าเรื่องโดนใจจริง ๆ มานั่งดู ก็ประโยคนี้ละ จริง ๆ เห็นด้วยอย่างแรง กับเหมยลี่ ถ้าทุกวันเรายังต้องกินข้าวคนเดียว ดูหนังคนเดียว แล้วคำว่าแฟนมันจะมีความหมายอะไร จริงเปล่า

แต่คำพูดที่เป็ดตอบนี่ดิ โดนใจยิ่งกว่า แฟนไม่ได้มีไว้ให้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา แต่มีไว้ให้รู้ว่ายังมีอีกคนที่ห่วงใย โอ้แม่เจ้า !! โดนกกสอง แสดงว่าที่เคยคิดว่า การมีแฟนต้องเป็นอะไรที่ตัวติดกัน คิดถึงกันตลอดเวลา อันนี้เป็นความคิดที่ผิดมาตลอดเลยหรอนี่ เหอะๆ ได้ฟังประโยคนี้แล้ว คนที่เค้ามีแฟน หรือใครที่ขี้งอนแฟน เวลาแฟนไม่ได้ค่อยเทคแคร์ อาจจะเข้าใจใครอีกคนมากขึ้นว่า แต่ละคนล้วนมีภาระหน้าที่ที่ต้องทำอะนะ บางเวลา แค่คนเพียงคนเดียวที่เข้าใจ แค่นี่ก็หายเหนื่อยแล้ว ต่อให้ต้องไปลุยไฟ บนภูเขาไฟ ก็คงจะไม่รู้สึกร้อนผิวเลยละมั่ง (อันนี้ก็เวอร์ไป ^^ ) แต่หากในขณะเดียวกัน หากคนที่เค้ารัก ก็ยังไม่เข้าใจในความเป็นเค้าเนี๊ยะ การเป็นแฟนกัน ก็เหมือนเอาบ่วงมาใส่คอ ชัด ๆ ถึงว่าใครหลายคน ชอบพูดคำว่า ตกนรกชัด ๆ

แต่ยังไงก็ตามแต่นะ การมีคนที่มาค่อยห่วงใย มันก็ยอมทำให้อบอุ่นใจมากกว่าต้องเดินอยู่คนเดียว จริงเปล่า ^^

ส่วนเราก็ยังคงตามหากันต่อไป แล้วก็ขอบคุณทีมงานและนักแสดงมาก ๆ ที่ทำให้มีหนังดี ๆ แบบนี้ให้ได้ดู ไว้จะรอดูอีกก็แล้วกัน แต่คิดว่าคราวหน้า จะต้องหาคนไปดูเป็นเพื่อนให้ได้เลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น